ประวัติความเป็นมา

ประวัติสมาคมศิษย์เก่าพยาบาล
สภากาชาดไทยในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
The Thai Red Cross Nurses
Alumni Association

Under the Royal Patronage of H.R.H.
Princess Maha Chakri Sirindhorn

ความริเริ่มและเจตนารมณ์
     ดำริในการจัดตั้งสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลสภากาชาดไทย ได้ริเริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยพยาบาลระดับผู้นำ 5 ท่าน คือ นางสาวถวิลหวัง ทุติยะโพธิ (ท่านผู้หญิงถวิลหวัง ทุติยะโพธิ) ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมกับ นางสาวประยงค์ รัณยกานนท์ นางสาวสารภี วัลยะวณิก นางประเทือง คชภักดี (ท่านผู้หญิงประเทือง คชภักดี)
และนางสาวสมจิตต์
ติณฑกะศิริ (นางสมจิตต์ กาญจนะโภคิน) ด้วยเจตนารมณ์ที่จะสร้างศูนย์กลางรวมใจของพยาบาลสภากาชาดไทย

     เพื่อความสมานสามัคคี ปรารถนาดี และเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ในระหว่าง
ผู้ร่วมวิชาชีพจากสถานศึกษาเดียวกัน ส่งเสริมและ
แลกเปลี่ยนความรู้ และ
ความคิดเห็น เกี่ยวกับศิลปวิทยาของวิชาชีพพยาบาล ทั้งในด้านการศึกษาและการปฏิบัติตามหลักวิชาการ ร่วมกันรักษาจรรยาวิชาชีพให้เป็นที่นิยมและเชิดชูเกียรติของสถานศึกษา และไม่เกี่ยวกับการเมือง

      จากคณะผู้ริเริ่ม 5 ท่าน ต่อมามีคณะกรรมการเพิ่มขึ้นอีก 3 ท่าน คือ นางประกิต เวชศักดิ์ (คุณหญิงประกิต เวชศักดิ์) นางเชวง ศักดิ์สงคราม และนางสาวประไพ เต็มศุข (ท่านผู้หญิงประไพ ศิวะโกเศศ) ซึ่งได้ร่วมกันดำเนินการ จนสามารถ
ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นสมาคมฯ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2504 ใช้ชื่อว่า “สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนพยาบาลจุฬาลงกรณ์”
โดย นางสาวถวิลหวัง ทุติยะโพธิ (ท่านผู้หญิงถวิลหวัง ทุติยะโพธิ) ทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าฯ คนแรก


การชุมนุมศิษย์เก่าครั้งแรก
     สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทำพิธีเปิดสมาคมฯ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2504 ณ ตึกราชูปถัมภ์ โรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัย (สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ในปัจจุบัน)
ตั้งแต่นั้นมา ศิษย์เก่าทุกคน จึงถือเอา
วันที่ 10 สิงหาคม เป็น “วันชุมนุมศิษย์เก่าพยาบาลสภากาชาดไทยฯ” สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
     ในปี พ.ศ. 2517 คุณหญิงประกิต เวชศักดิ์ นายกสมาคมฯ ในขณะนั้นได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ รับสมาคมฯ อยู่ในพระราชินูปถัมภ์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2517 เป็นต้นมา หลังจากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จสู่สรรคตแล้วหลายปี ดังนั้นคุณหญิงประไพ ศิวะโกเศศ (ท่านผู้หญิงประไพ ศิวะโกเศศ) จึงทำหนังสือกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ราชูปถัมภ์ของสมาคมฯ ซึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระกรุณาธิคุณโปรดเกล้ารับสมาคมฯ อยู่ในพระราชูปถัมภ์ ในวันที่ 24 มิถุนายน 2529 สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

นายกสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลสภากาชาดไทย จากอดีต จนถึงปัจจุบัน

1. ท่านผู้หญิงถวิลหวัง ทุติยะโพธิ พ.ศ. 2504 – 2512
2. คุณหญิงประกิต เวชศักดิ์ พ.ศ. 2513 – 2518
3. นางสาวประยงค์ อรัณยกานนท์ พ.ศ. 2519 – 2521
4. ท่านผู้หญิงประไพ ศิวะโกเศศ พ.ศ. 2522 – 2537
5. นางสมจิตต์ กาญจนโภคิน พ.ศ. 2538 – 2545
6. ดร.อรวรรณ อุทัยเสน พ.ศ. 2546 – 2547
7. นางลดาวัลย์ รวมเมฆ พ.ศ. 2548 – 2549
8. คุณหญิงบุญชอบ บำเพ็ญนรกิจ พ.ศ. 2550 – 2552
9. นางสาวพิศวง พุทธศิริ พ.ศ. 2553 – 2554
10. ดร.อรวรรณ อุทัยเสน พ.ศ. 2555 – 2556
11. นางสาวพิศวง พุทธศิริ พ.ศ. 2557 – 2558
12. นางลดาวัลย์ รวมเมฆ ( 3 วาระ)
พ.ศ. 2559 – 2560 
พ.ศ. 2561 – 2563 
พ.ศ. 2564 – 2566
13. นางสายทิพย์ อานโพธิ์ทอง พ.ศ. 2567 – ปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ของสมาคมฯ
1. เป็นศูนย์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเผยแพร่ความรู้ด้านวิชาการพยาบาล
2. จรรโลงไว้ซึ่งจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และการเชิดชูเกียรติของสถาบันการศึกษา
3. ธำรงไว้ซึ่งความสมานสามัคคี และการเกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างผู้ร่วมวิชาชีพ
4. ส่งเสริมวิชาชีพการพยาบาลด้านวิชาการ การบริหาร การบริการพยาบาล การศึกษา และศิลปวัฒนธรรมไทย
5. ร่วมมือและประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อประโยชน์ต่อสังคม

ประเภทสมาชิก
1. สมาชิกสามัญ หมายถึง
   1.1 พยาบาลที่สำเร็จการศึกษาจาก สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย (วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาด เดิม)
   1.2 พยาบาลที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอื่น ที่ได้รับการศึกษาต่อใน สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย (วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาด เดิม)
2. สมาชิกสมทบ หมายถึง
   2.1 พยาบาลที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอื่นที่ได้ปฏิบัติงานประจำหน่วยงานของสภากาชาดไทย เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี
   2.2 ผู้ช่วยพยาบาลที่สำเร็จการศึกษาจาก สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย (วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาด เดิม)
   2.3 ผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล หรือ ผดุงครรภ์จากสถาบันการศึกษาอื่น ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรองวิทยฐานะและได้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของสภากาชาดไทยไม่น้อยกว่า 3 ปี

การสมัครเป็นสมาชิก
     ให้ยื่นใบสมัครตามแบบฟอร์มของสมาคมฯ พร้อมด้วยรูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป ต่อนายทะเบียน โดยชำระค่าสมาชิก ดังนี้
1. สมาชิกสามัญตลอดชีพ ชำระค่าสมัครสมาชิก เป็นเงิน 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน)
2. สมาชิกสมทบตลอดชีพ ชำระค่าสมัครสมาชิก เป็นเงิน 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน)

สิทธิของสมาชิก
1. สมาชิกสามัญ มีสิทธิดังนี้
   1.1 ประดับเข็มเครื่องหมายของสมาคมฯ
   1.2 ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร เสนอความคิดเห็นในที่ประชุมใหญ่
   1.3 มีสิทธิรับเลือกตั้ง หรือได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารของสมาคมฯ
   1.4 ได้รับสิทธิประโยชน์ตามระเบียบของสมาคมฯ
2. สมาชิกสมทบ มีสิทธิดังนี้
   2.1 ประดับเข็มเครื่องหมายของสมาคมฯ
   2.2 เข้ารับการประชุม อภิปรายและเสนอความคิดเห็น แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนหรือรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ
   2.3 ได้รับสิทธิประโยชน์ตามระเบียบของสมาคมฯ

หน้าที่ของสมาชิก
1. ปฏิบัติตามข้อบังคับ และระเบียบต่างๆ ของสมาคมฯ
2. ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
3. เสนอแนะ สนับสนุน และส่งเสริมกิจกรรมของสมาคมฯ ให้เป็นที่ปรากฏ
4. ธำรงไว้ซึ่งชื่อเสียงสมาคมฯ และเผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมฯ ให้เป็นที่ปรากฎ
5. เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล ยศ บรรดาศักดิ์ และย้ายที่อยู่ หรือสำนักงาน ให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเลขานุการ เพื่อดำเนินการแก้ไขในทะเบียนให้ถูกต้อง

สมาคมให้อะไรแก่ท่าน
สมาชิกมีโอกาสได้รับประโยชน์จากสมาคมฯ ดังนี้
1. ทุนสนับสนุนการวิจัย ทุนศึกษาดูงาน ศึกษาอบรมภายในประเทศ หรือต่างประเทศ
2. รับการแสดงความยินดีจากสมาคมฯ ในโอกาสพิเศษ อาทิ
– เป็นผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์สกุลจอมเกล้า ตั้งแต่ขั้น จตุตถจุลจอมเกล้า หรือ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ตั้งแต่ขั้น จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ ขึ้นไป
– เป็นผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบริหารระดับสูงในหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน เช่น ในสายงานวิชาการ ต้องดำรงตำแหน่ง อธิการบดี รองอธิการบดี คณบดี รองคณบดี ผู้อำนวยการสถาบัน รองผู้อำนวยการสถาบัน หรือ ตำแหน่งเทียบเท่า ที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น ในสายงานบริการ ต้องดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพยาบาล ผู้อำนวยการสำนักงาน รองผู้อำนวยการสำนักงาน หรือตำแหน่งเทียบเท่า ที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น
– เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม จนได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในระดับประเทศ
3. เสนอชื่อรับการสรรหาเป็น ศิษย์เก่าดีเด่น ในสาขาต่าง ๆ
4. เข้าร่วมประชุมวิชาการประจำปีของสมาคม
5. มีสิทธิได้รับการลดหย่อนกึ่งหนึ่ง ของอัตราปกติ สำหรับค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่าคลอดบุตร ค่าผ่าตัด ฯลฯ เมื่อเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย หรือ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย รวมทั้งได้รับการ์ดเยี่ยมจากสมาคมฯ
6. ได้รับการ์ดอวยพรวันเกิดจากสมาคมฯ
7. การช่วยเหลือสมาชิกที่ประสบภัย รายละไม่น้อยกว่า 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)

Scroll to Top